1️⃣คำถาม (1) : อาจารย์ผู้บรรยาย / คะแนนสอบ และเนื้อหาวิชา
(1.1) อาจารย์ผู้บรรยายคืออาจารย์ท่านใดบ้าง และคะแนนที่สอบได้
ก้องภพ : “ผมเรียนวิชานิติกรรมและสัญญากับ ศ.ดร.พินัย ณ นครครับ”
“สอบกลางภาคได้ 38 เต็ม 40 คะแนน ปลายภาคได้ 57 เต็ม 60 คะแนน รวมเป็น 95 คะแนนครับ”
(1.2) ตอนที่เรียนคิดว่าเนื้อหาวิชานี้เป็นอย่างไรบ้าง และความรู้สึกก่อนและหลังเรียนต่างกันอย่างไร
ก้องภพ : “กลุ่มนิติกรรมสัญญาที่ผมเรียนมีรูปแบบของการเรียน การสอน และการสอบเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่ยังคงเรียนในเนื้อหาของกฎหมายไทยนะครับ ซึ่งก็มีบางหัวข้อที่ได้ศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายในต่างประเทศอีกด้วย สำหรับผมวิชานี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาวิชากฎหมายของปีการศึกษาต่อ ๆ ไป เป็นเนื้อหาที่ปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน และเป็นประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคต”
“ก่อนเรียนวิชานิติกรรมสัญญา ผมคิดว่าน่าจะเป็นวิชาที่มีความซับซ้อนและเข้าใจยาก เพราะหนังสือเรียนของวิชานี้เล่มหนากว่าประมวลกฎหมายอีกครับ มากไปกว่านั้นเซคผมยังต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษอีกเลยมีความกังวลว่าอาจจะเรียนไม่รู้เรื่องหรือตอบข้อสอบได้ไม่ดีนัก แต่เมื่อได้เรียนแล้วก็พบว่าเป็นวิชาที่มีเนื้อหาที่น่าสนใจมากและไม่ได้เข้าใจยากอย่างที่คิด เพราะเรื่องนิติกรรมและการทำสัญญาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดในชีวิตประจำวัน เมื่ออาจารย์ยกกรณีตัวอย่างประกอบจึงสามารถคิดภาพตามได้ง่าย อีกทั้งยังได้เรียนเกี่ยวกับการร่างสัญญาเป็นภาษาอังกฤษ โดยให้ร่างสัญญาขึ้นจากข้อเท็จจริงที่กำหนด ซึ่งผมสนุกกับการเรียนในเนื้อหาส่วนนี้มาก ๆ นอกจากนี้ยังได้เรียนเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในยุคดิจิทัล ซึ่งผมคิดว่าเป็นเนื้อหาที่มีความทันสมัยและจำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันครับ”
?????
2️⃣คำถาม (2) : เทคนิคในการเรียนและหนังสือแนะนำ
2.1 ใช้เทคนิคอย่างไรในการเรียนและการทำความเข้าใจเนื้อหาวิชา
ก้องภพ : “สำหรับผมการเข้าฟังการบรรยายในวิชานี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะท่านอาจารย์จะบรรยายเนื้อหาพร้อมยกตัวอย่างประกอบเป็นภาษอังกฤษ โดยผมคิดว่าการได้ฝึกฟังเป็นประจำจะช่วยในการจดจำและเข้าใจคำศัพท์กฎหมายและหลักกฎหมายต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าการอ่านหนังสือเอง อีกทั้งยังได้มุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับกฎหมายจากท่านอาจารย์ในหลายแง่มุม แต่เนื่องจากวิชานี้มีเนื้อหาที่ครอบคลุมในหลายหัวข้อ ทำให้บางครั้งการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเนื่องด้วยเวลาในห้องเรียนที่มีจำกัด ผมจึงอ่านหนังสือที่เป็นฉบับภาษาไทยกับสไลด์ประกอบการสอนของอาจารย์ที่เป็นภาษาอังกฤษควบคู่กันไปเพื่อให้เข้าใจถึงเนื้อหาในแต่ละหัวข้อได้อย่างละเอียด โดยบ่อยครั้งผมและเพื่อนจะสมมุติข้อเท็จจริงขึ้นเพื่อถกเถียงกัน เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งผมเชื่อว่าการได้วิเคราะห์และพูดออกมาเป็นวิธีที่ดีในการทำความเข้าใจเนื้อหาวิชา และยังช่วยในการฝึกการเรียบเรียงความคิดและถ่ายทอดออกมาให้คนอื่นเข้าใจ เพื่อเป็นประโยชน์ในการเขียนตอบข้อสอบต่อไปครับ”
2.2 หนังสือแนะนำสำหรับการศึกษากลุ่มนี้
ก้องภพ : “หนังสือเรียนที่แนะนำสำหรับเซคผมจะเป็นหนังสือนิติกรรมสัญญา โดยศาสตราจารย์ ดร.ศนันท์กรณ์ โสตถิพันธุ์ และกฎหมายเกี่ยวกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ในยุคดิจิทัลโดย ศาสตราจารย์ ดร.พินัย ณ นครครับ”
?????
3️⃣คำถาม (3) : การสัมมนา
3.1 วิชานี้มีการสัมมนาโดยอาจารย์ท่านใด และคิดว่าการสัมมนามีส่วนช่วยในการเรียนมากน้อยแค่ไหน
ก้องภพ : “ในเซคผมอาจารย์ผู้บรรยายจะเป็นผู้สัมมนาเองครับ โดยในการสัมมนาจะสอนวิธีการเขียน legal essay สำหรับการเขียนตอบข้อสอบกฎหมายเป็นภาษาอังกฤษ และสอนวิธีการปรับใช้หลักกฎหมายที่เรียนมาเข้ากับข้อเท็จจริงที่เป็นประเด็นพิพาทครับ ส่วนตัวผมคิดว่าการสัมมนามีส่วนช่วยในการเรียนเป็นอย่างมาก เพราะผมเชื่อว่าไม่ว่าเราจะมีความรู้มากน้อยเพียงใด แต่หากบกพร่องในการสื่อสารออกมาให้ผู้อื่นเข้าใจได้ ก็เป็นการยากที่จะทำคะแนนออกมาได้ดีครับ ซึ่งในตอนแรกผมก็มีปัญหาเรื่องการเรียบเรียงข้อมูลในหัวและเขียนข้อมูลเหล่านั้นออกมานะครับ แต่หลังจากที่ได้เข้าสัมมนาผมก็สามารถเขียนออกมาได้อย่างเป็นระบบมากขึ้นครับ”
3.2 ได้เขียนการบ้านสัมมนาส่งไหม และคิดว่าจำเป็นมากน้อยแค่ไหน
ก้องภพ : “แม้ว่าจะมีการสัมมนาแต่เซคผมไม่ได้มีให้ส่งสัมมนาครับ แต่อาจารย์จะมีแบบฝึกหัดพร้อมตัวอย่างการตอบข้อสอบมาให้ครับ”
?????
4️⃣คำถาม (4) : การเรียนออนไลน์
4.1 อาจารย์ใช้รูปแบบใดในการสอนออนไลน์
ก้องภพ : “รูปแบบการสอนออนไลน์จะเป็นการบรรยายสดผ่านทาง Facebook Live ในกลุ่มที่อาจารย์สร้างขึ้น โดยสามารถทบทวนย้อนหลังได้ผ่านไลฟ์ที่ถูกโพสเอาไว้ในกลุ่มดังกล่าว และอาจารย์มีการติดต่อกับนักศึกษาผ่านทาง Line group เพื่อแจ้งข่าวสารและตอบข้อสงสัยครับ ”
4.2 การเรียนในช่วงเรียนในห้องและเรียนออนไลน์ แตกต่างกันอย่างไรบ้าง และเรียนออนไลน์เจอปัญหาอะไรบ้าง แก้ปัญหาอย่างไร
ก้องภพ : “ส่วนตัวผมมีสมาธิกับการเรียนในห้องเรียนมากกว่าการเรียนออนไลน์ครับ และผมชอบการได้เจอเพื่อน ๆ กับอาจารย์ในห้องเรียน เพราะได้คอยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและถกเถียงกันในประเด็นต่าง ๆ ทำให้วิชามีความสนุกและน่าสนใจครับ ”
ส่วนตัวผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือหรือทบทวนบทเรียนในห้องสมุดหรือร้านกาแฟครับ เพราะเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศของความกดดันเล็ก ๆ ให้เรากระตือรือร้นที่จะอ่านหนังสืออยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเกิดสถานการณ์ของโรคระบาดทำให้ช่วงนั้นสถานที่ดังกล่าวถูกสั่งปิด การเรียนออนไลน์อยู่บ้านจึงเป็นปัญหาสำหรับผมอยู่บ้างในส่วนของการขาดแรงผลักดันในการเรียน โดยผมแก้ปัญหานี้โดยการทำ to-do list เพื่อเหมือนเป็นการบังคับตัวเองให้รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ต้องทำ นอกจากนี้การแบ่งเวลาเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะผมเคยมีช่วงที่วัน ๆ หนึ่งไม่ทำอะไรเลย หรืออีกวันหนึ่งที่อ่านแต่หนังสือทั้งวัน ซึ่งผมก็ได้เรียนรู้ว่าสำหรับผมการทำอะไรที่ extreme เกินไปอาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่มีประสิทธิภาพนัก จึงต้องหาสมดุลในการใช้ชีวิตในแต่ละวันด้วยครับ
?????
5️⃣คำถาม (5) : การเตรียมตัวสอบและฝากถึงรุ่นน้อง
5.1 ใช้เทคนิคอย่างไรบ้างในการเตรียมตัวสอบวิชานี้
ก้องภพ : “นอกจากที่ผมพยายามเข้าเรียนอย่างสม่ำเสมอแล้ว ผมก็อ่านหนังสือเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจเนื้อหาวิชาได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น พออ่านหนังสือจบผมจะเน้นที่การอ่านทบทวนสไลด์ที่ใช้ประกอบการบรรยายครับ เพราะจะมีทั้งโน้ตที่เราจดในห้องประกอบกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษทางกฎหมายที่ต้องใช้เวลาในการจำและทำความเข้าใจ เมื่อใกล้วันสอบผมจะทำข้อสอบในแบบฝึกหัดที่อาจารย์ผู้สอนแจกให้ในคาบสัมมนา โดยจับเวลาตามเวลาที่ให้ในวันสอบจริงแล้วนำไปตรวจกับตัวอย่างการเขียนตอบของอาจารย์ครับ นอกจากนี้ผมได้มีการทบทวน grammar ภาษาอังกฤษเพิ่มเติมด้วยครับ ซึ่งแม้ว่าอาจารย์จะไม่ได้ให้คะแนนหรือหักคะแนนในส่วนนี้ แต่ผมคิดว่าการเขียนให้ถูกหลักไวยากรณ์จะทำให้คำตอบของผมน่าอ่าน เข้าใจง่าย และเป็นไปตามความหมายที่ผมต้องการจะสื่อครับ”
5.2 ฝากถึงน้อง ๆ ปีหนึ่งที่กำลังเรียนวิชานี้
ก้องภพ : “อยากเป็นกำลังใจให้น้อง ๆ ที่กำลังเรียนวิชานิติกรรมสัญญา รวมถึงวิชาอื่น ๆ ด้วยนะครับ อาจจะมีช่วงเวลาที่เหนื่อยและเครียดอยู่บ้างแต่ผมเชื่อว่าทุกคนจะผ่านมันไปได้ครับ”
?????
ภาพ ก้องภพ
เรียบเรียง KK